ไถ่ชีวิตโค-กระบือ วัดภูเขาทอง
บันทึกความดี
ไถ่ชีวิตโค-กระบือ วัดภูเขาทอง
วันนี้ วันที่ ๖ เมษายน ๒๕๕๕ วัดพระศิวะเจ้า (สมาคมตันตระ)
ได้รวบรวมเงินบริจาคจากศิษยานุศิษย์ผู้มีจิตศรัธทา
ร่วมกันสร้างกุศล ไถ่ชีวิต แม่-ลูกโค ได้รวมทั้งสิ้น ๑๐ ตัว จากโรงฆ่าสัตว์แอนดาหนองจอก
โดยตัวแทนของวัดพระศิวะเจ้าได้นำแม่-ลูกโคที่ไถ่ชีวิตมาไปถวาย ณ วัดภูเขาทอง จ.อยุธยา
เพื่อให้แม่-ลูกโค ได้ใช้ชีวิตอยู่ที่เหลืออยู่อย่างสุขสบาย
และทางวัดภูเขาทองได้เปิดให้ชาวบ้านและผู้ใจบุญไปช่วยทำบุญให้อาหารเป็นประจำทุกวัน
ทุกๆคนก็สามารถไปเยี่ยมน้องวัวเหล่านี้ได้
ทั้งนี้ทางวัดพระศิวะเจ้าได้ถ่ายภาพมาให้ชมบรรยากาศและร่วมอนุโมทนากัน ณ ที่นี้ด้วย สาธุ
พี่มะขาม และ น้องขนุน ๒ พี่น้อง ลูกวัวกำพร้า
เจ้าสีแทน ลูกวัวกำพร้าวัยหนุ่ม กำลังดิ้นเพราะกลัวจะถูกเชือด
ดูสายตาที่อาบความหวังอันริบหรี่ของพวกเขาสิ...
จะเห็นได้ว่า วัวในภาพทุกตัว ผอมแห้งแรงน้อย เหลือแต่หนังติดกระดูก
ข้าพเจ้าได้สอบถามและได้คำตอบจากผู้เชือดว่า ...
"ต้องให้วัวอดอาหารสักประมาณสัปดาห์ เพื่อให้วัวหมดแรง
ตอนเชือดจะได้ไม่มีแรงดิ้น และเลือดจะได้ไม่เลอะเทอะ"... (เป็นเรื่องน่าหดหู่ยิ่งนัก)
เจ้าทรายขาว ลูกวัวกำพร้าวัยหนุ่มอีกตัว
คุณแม่สมศรี และน้องสิงหาวัย ๘ เดือน วัวแม่ลูกอ่อน
ที่เพิ่งรวบรวมเงินทำบุญที่วัดพระศิวะเจ้าได้ทันไถ่ชีวิตเค้า จากพวกเราทั้งหลายเมื่อคืนนี้
คุณแม่บุญช่วย และ คุณลูกบุญรอด วัวแม่-ลูกหนุ่มอีกคู่ กำลังจะรอดชีวิต
...... เดินทาง จากโรงเชือด มาสู่ วัด ......
คุณยิ่งยศ ตัวแทนวัดพระศิวะเจ้า พาน้องมะปราง มาถึงวัดภูเขาทอง จ.อยุธยาแล้ว!!
ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเจ้าท่านอาวาส พระครูบรรพตสุวรรณวัฒน์
พาเจ้าสีแทนเข้าบ้านใหม่
น้องขนุน กับ พี่มะขาม (ลูกวัวกำพร้า) บนรถ และคุณแม่สมศรีกับ น้องสิงหาก็มาด้วย
พี่มะขาม
น้องสิงหา วัย ๘ เดือน
คุณแม่สมศรี
พี่ทรายขาว
คู่แม่ลูกบุญช่วย-บุญรอด "รอดแล้วจริงๆ"
พักในคอกกันก่อน
สีนวล พี่สาวของน้องมะปราง มาหลบอยู่นี่เอง (นั่ง)
เจ้าอาวาสวัดภูเขาทอง จ.อยุธยา ผู้รับอุปถัมถ์ เหล่าวัวมีวาสนาที่พวกเราช่วยกันร่วมกันไถ่ชีวิตไว้ฝูงนี้
พระครูบรรพตสุวรรณวัฒน์ ท่านเจ้าอาวาสวัดภูเขาทอง จ.อยุธยา และ คุณยิ่งยศ ตัวแทนวัดพระศิวะเจ้า
ใบอนุโมทนาบุญ
วัวคณะที่แล้วที่วัดพระศิวะเจ้าและผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันไถ่ชีวิตถวายวัด
ทั้ง6ตัว อ้วนท้วนสมบูรณ์ดี ใช้ชีวิตอย่างเป็นสุข ไม่ต้องทำงานเหน็ดเหนื่อย
อยู่กันพร้อมหน้า พ่อ แม่ ลูก
แท้จริงแล้ว การร่วมบริจาคเงินเพื่อช่วยไถ่ชีวิตโคกระบือนั้น เป็นเพียงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ
หากยังมีผู้นิยมบริโภคเนื้อโคอยู่ ก็ยังคงต้องมีผู้ขายเช่นเดียวกัน
และชีวิตโค ทั้งพ่อ แม่ และลูก อีกเป็นจำนวนมากที่ต้องสูญเสียไป เพื่อสนองผู้บริโภค ทั้
งๆที่เราก็มีทางเลือกอื่นในการรับประทานอาหารเพื่อการดำรงชีวิต
หากแต่การร่วมทำบุญสร้างกุศลอย่างแท้จริง คือการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ
โดยการเลิกบริโภคเนื้อโคตั้งแต่วันนี้ และช่วยกันบอกต่อๆไปยังคนที่เรารัก
รวมไปถึงผู้คนรอบๆตัวเรา ให้พวกเขาได้ร่วมสร้างกุศลกันด้วยตัวของพวกเขาเอง
สำหรับเหตุผลในการไม่บริโภคเนื้อโคนั้นตามความเชื่อของวัดพระศิวะเจ้า (สมาคมตันตระ)
โค ไม่ใช่สัตว์ที่ถูกสร้างมาเป็นอาหาร หรือสมควรแก่การถูกฆ่า
เพราะโคไม่เคยพรากชีวิตใคร และไม่เคยบริโภคสัตว์อื่นใดเป็นอาหาร
กรรมนี้จึงไม่สมควรตกแก่เหล่าโค
วันนี้ ให้เราลองถามใจตัวเองว่า
"หากเขาไม่เคยกินเนื้อใคร เราถือสิทธิ์อะไรไปกินเนื้อเขา?"
โอม นมัช ศิวาย
วัดพระศิวะเจ้า